
โคมไฟฉุกเฉิน LED สำคัญอย่างไร
มีการคิดค้นระบบโคมไฟฉุกเฉินภายในอาคารขึ้นมา ซึ่งสามารถติดตั้งได้ทุกสถานที่ และติดตั้งง่าย โดยโคมไฟฉุกเฉิน (Emergency Light) เป็นโคมไฟที่ให้แสงสว่างในยามฉุกเฉินแบบทำงานทันทีเมื่อแหล่งจ่ายไฟฟ้าปกติดับหรือล้มเหลว รวมถึงการให้แสงสว่างเพื่อการหนีภัย (Escape Lighting) และการให้แสงสว่างสำรอง (Standby Lighting) ด้วย
โดยมีหลักการทำงานของโคมไฟฉุกเฉิน ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่เก็บพลังงานไฟฟ้าไว้ในแบตเตอรี่ ก็จะมี 2 แบบ คือ แบบชนิดเติมน้ำกลั่น และชนิดแห้งไม่ต้องเติมน้ำกลั่น เมื่อไฟฟ้าดับจะใช้ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ไปทำให้หลอดไฟสว่าง และเมื่อไฟฟ้าติดตามปกติ ก็จะมีกระแสไฟฟ้าจ่ายให้ไฟฉุกเฉินก็จะทำให้วงจรลดแรงดันไฟฟ้า และแปลงกระแสไฟฟ้าให้เป็นกระแส DC เพื่อประจุให้แบตเตอรี่ และไม่ให้หลอดไฟสว่าง

ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาโคมไฟฉุกเฉิน ให้สามารถเปลี่ยนมาเป็นหลอด LED ได้ ซึ่งคำว่า LED ย่อมาจาก Light Emitting Diode ก็คือ ไดโอดที่สามารถเปล่งแสงออกมาได้ โดย
1. ประสิทธิภาพของแสงที่เปล่งออกมาสามารถให้ความสว่างได้มากกว่า จึงช่วยในเรื่องของการประหยัดไฟฟ้า ให้พลังงาน และความร้อนที่ต่ำ
2. มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า 50,000 ชั่วโมง
3. ไม่ก่อภาวะเรือนกระจก เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
4. ให้แสงที่สบายตา สามารถให้แสงสว่างได้ทันทีและสามารถเปิดปิดได้บ่อยครั้งโดยไม่ต้องกังวลว่าจะเสียง่ายเหมือนหลอดฟลูออเรสเซนส์
5. หากเกิดการชำรุดก็สามารถซ่อมแซมได้ สามารถติดตั้งได้ง่ายกว่า และยังเปลี่ยนหลอดไฟได้สะดวกกว่าและประหยัดกว่าอีกด้วย ถึงแม้จะมีราคาสูงกว่าหลอดธรรมดาทั่วไปก็ตาม
วิธีการเลือกซื้อนั้นให้พิจารณาจากขนาดบริเวณที่จะใช้งาน และสถานที่ที่ต้องการใช้โคมไฟฉุกเฉิน LED เพื่อจะได้ทราบจำนวนวัตต์ของหลอดไฟที่ต้องการใช้ให้เหมาะสมกับพื้นที่ และระยะการส่องสว่าง รวมถึงอายุของการใช้งานของแบตเตอรี่ด้วย และที่สำคัญลืมไม่ได้เลยคือ มาตรฐาน มอก. เพื่อความปลอดภัยและมั่นใจต่อการใช้งาน
จะเห็นได้ว่าโคมไฟฉุกเฉินมีความสำคัญต่อไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตของเราไม่น้อยเลยทีเดียว ดังนั้นจะเลือกใช้แบบไหนก็พิจารณาดูให้ดีเพื่อจะได้เลือกอย่างถูกต้องและอุ่นใจเหมาะสมกับการใช้งาน