ถังดับเพลิงดียังไง
บ้านที่เราใช้เป็นที่อยู่อาศัยนั้น สำหรับบางคนอาจต้องใช้เวลาทั้งชีวิตกว่าจะได้มา รวมถึงทรัพย์ สิ่งของมีค่าต่างๆ บางชิ้นก็มีค่าทางใจโดยที่ไม่สามารถใช้เงินซื้อมาได้อีก แต่เราอาจสูญเสียสิ่งต่างๆเหล่านี้จากหายนะภัยที่เกิดจากเพลิงไหม้เพียงครั้งเดียว และเราจะต้องโศกเศร้ายิ่งกว่าถ้าหากอัคคีภัยครั้งนี้ได้คร่าชีวิตบุคคลอันเป็นที่รักของเราไปด้วย อย่างไรก็ตามเราสามารถที่จะยับยั้งเหตุการณ์สูญเสียที่เราไม่ปรารถนาไม่ให้เกิดขึ้นได้ หากเรามีความพร้อมเมื่อมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น และสามารถจัดการกับปัญหาได้อย่างทันท่วงที ถังดับเพลิงเป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยเรารอดพ้นจากความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินได้ ในยามที่เราต้องประสบกับเหตุเพลิงไหม้ไม่ว่าจะเป็นเหตุสุดวิสัยหรือจะเกิดจากความประมาทก็ตามที
ถังดับเพลิงมีอยู่ด้วยกันหลายประเภท ตามแต่ความเหมาะสมของการใช้งาน ขึ้นอยู่เพลิงไหม้แต่ละประเภทว่ามีที่มาจากเชื้อเพลิงประเภทใด
โดยทั่วไปไฟที่ทำให้เกิดเพลิงไหมแบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ เอ บี ซี และดี ตามข้อกำหนดมาตรฐานสากล
ประเภทเอ คือ ไฟที่เกิดจากเชื้อเพลิงที่เป็นวัตถุของแข็งต่างๆ เช่น ฟืน ฟาง ยาง กระดาษ พลาสติก เป็นต้น วิธีเหมาะสมในการใช้ดับไฟประเภทนี้ คือ การใช้“น้ำ” ในการดับไฟ
ไฟประเภทบี คือ ไฟที่เกิดจากเชื้อเพลิงที่เป็นของเหลวและก๊าซ เช่น น้ำมัน แอลกอฮอล์ ทินเนอร์ ยางมะตอยและก๊าซติดไฟทุกชนิด เป็นต้น วิธีที่เหมาะสมที่ใช้ดับไฟประเภทนี้ คือ การกำจัดออกซิเจนซึ่งเป็นองค์ประกอบที่ทำให้เกิดไฟออกให้หมด ทำให้อับอากาศ โดยใช้วิธีคลุมดับ ใช้ผงเคมีแห้ง และคลุมโดยฟองโฟม
ไฟประเภทซี คือ ไฟที่เกิดจากเชื้อเพลิงที่เป็นวัตถุที่มีกระแสไฟฟ้าไหลเวียนอยู่ เช่น อุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ วิธีที่เหมาะสมที่ใช้ดับไฟประเภทนี้ คือ การตัดกระแสไฟ จากนั้นใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หรือน้ำยาเหลวระเหยไร้สารซีเอฟซี เพื่อไล่ออกซิเจนออกไป
ไฟประเภทดี คือ ไฟที่เกิดจากเชื้อเพลิงสารเคมีติดไฟ เช่น หรือโลหะที่ให้ความร้อนสูง เช่น ปุ๋ยยูเรียหรือแอมโมเนียมไนเตรต ผงแมกนีเซียม ระเบิด เป็นต้น ใช้น้ำในการดับไฟประเภทนี้ไม่ได้เป็นอันขาด วิธีที่เหมาะสมที่ใช้ดับไฟประเภทนี้ คือ การทำให้อับอากาศ หรือใช้สารเคมีเฉพาะที่ใช้ดับไฟและต้องศึกษาหาข้อมูลของสารเคมี หรือโลหะแต่ละชนิดเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
เมื่อรู้จักประเภทของไฟและวิธีการดับไฟกันแล้ว ก็มาทำความรู้จักกับถังดับเพลิงกันครับ ถังดับเพลิงทั่วๆไปนั้นเป็นชนิดเครื่องดับไฟแบบมือถือ หรือ แบบยกหิ้ว มีขนาดเล็ก ใช้ระงับไฟในเบื้องต้นก่อนที่จะลุกลาม ซึ่งมีอยู่หลายชนิด ที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานภายในบ้านมีอยู่ 4 แบบ ซึ่งแต่ละแบบก็เหมาะกับการใช้งานที่ต่างกันไป คือ
ถังดับไฟชนิดแรกเรียกว่า ฟองโฟม ซึ่งถังชนิดนี้นิยมบรรจุในถังอลูมิเนียมสีครีมหรือถังแสตนเลส มีหัวฉีดเป็นหัวฝักบัว ภายในบรรจุน้ำยาโฟมผสมกับน้ำแล้วอัดแรงดันไว้ เวลาใช้ให้ถอดสลักและบีบคันบีบ แรงดันจะดันน้ำผสมกับโฟมผ่านหัวฉีดฝักบัว พ่นออกมาเป็นฟองกระจายไปปกคลุมบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้ ทำให้อับอากาศและขาดออกซิเจน ทำให้ไฟที่ไหม้อยู่ดับลงได้ ซึ่ง”ถังดับเพลิง”ชนิดนี้ใช้ได้ทั้งไฟประเภทเอและบี
“ถังดับเพลิง”ชนิดที่สองเป็นชนิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ ซีโอทู ถังชนิดนี้นิยมบรรจุในถังสีแดง แต่ในต่างประเทศจะเป็นถังสีดำครับ ภายในบรรจุก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในถังที่ทนแรงดันสูง ที่ปลายสายฉีดมีลักษณะเป็นกระบอก หรือกรวย เวลาฉีดเหมือนมีหมอกพ่นออกมาเพื่อไล่ความร้อนและออกซิเจน เมื่อใช้งานแล้ว จะไม่มีคราบเหลืออยู่ ราคาค่อนข้างสูง สำหรับถังชนิดนี้ใช้ดับไฟประเภทบี และ ซี
ถังดับเพลิงชนิดที่สามคือชนิดผงเคมีแห้ง ซึ่งถังประเภทนี้จะนิยมบรรจุในถังสีแดง ในต่างประเทศจะบรรจุในถังสีฟ้า ภายในถังจะบรรจุผงเคมีที่มีคุณสมบัติไว้หลายชนิด เวลาใช้ผงเคมีจะถูกดันออกไปคลุมไฟทำให้อับอากาศ ดูเหมือนฝุ่นที่ฟุ้งกระจายแต่จะทำให้เกิดคราบสกปรกหลังจากใช้งาน ถังประเภทนี้ใช้ดับไฟประเภทบีได้ดี และสามารถดับไฟประเภทซีได้ด้วยเช่นกัน เพราะผงเคมีที่บรรจุภายในไม่มีพิษภัย ไม่เป็นสื่อไฟฟ้า แต่ฝุ่นที่ฟุ้งกระจายอาจสร้างความเสียหายให้แก่อุปกรณ์ไฟฟ้าราคาแพงได้ เป็นชนิดเหมาะกับการใช้งานภายในบ้าน มีคุณสมบัติในการดับไฟได้ดี และใช้ดับไฟได้หลายประเภท มีราคาถูก และยังใช้ดับไฟประเภทเอได้ด้วยแต่ควรใช้น้ำดับก่อน
ถังดับเพลิงชนิดที่สี่คือถังชนิดน้ำยาเหลวระเหยฮาโลเจน ปัจจุบันน้ำยาเหลวระเหยที่ใช้จะเป็นชนิดที่ไร้สารซีเอฟซีซึ่งเป็นสารที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งมีอยู่หลายชนิด ถังดับเพลิงชนิดนี้เหมาะสำหรับใช้ดับไฟประเภทซี และ บี แต่ไม่เป็นที่นิยม และมีราคาสูง
เพื่อระงับยับยั้งเหตุเพลิงไหม้มิให้ลุกลามใหญ่โตจนนำมาซึ่งความสูญเสียที่เราอาจต้องเสียใจไปตลอดชีวิต การมีอุปกรณ์อย่างเช่นถังดับเพลิงไว้ใช้ภายในบ้าน จะนำพาเราให้รอดพ้นจากสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินได้ และควรติดตั้งไว้ในที่ๆสามารถหยิบใช้ได้โดยสะดวกทันท่วงที และควรศึกษาคู่มือการใช้งานละปฏิบัติตามให้ถูกต้อง
หน้าที่เข้าชม | 2,002,193 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,302,619 ครั้ง |
เปิดร้าน | 2 ธ.ค. 2560 |
ร้านค้าอัพเดท | 4 ก.ย. 2568 |