วิธีการติดตั้งไฟฉุกเฉินที่เหมาะสม
ไฟฉุกเฉิน หรือ Emergency Light System มีจุดประสงค์หลักในการติดตั้ง เพื่อใช้งานในตอนที่เกิดปัญหาไฟฟ้าดับ ซึ่งช่วยให้สถานที่ที่ใช้ ไฟฉุกเฉิน มีแสงสว่างแบบอัตโนมัติโดยเฉพาะในเวลากลางคืน ซึ่งหลักการทำงานของไฟฉุกเฉินก็อาจจะคล้ายการทำงานของเครื่องสำรองไฟ คือการใช้อุปกรณ์เก็บพลังงานไฟฟ้าไว้ในแบตเตอรี่ ปัจจุบัน การติดตั้ง ไฟฉุกเฉิน เป็นสิ่งที่จำเป็น ทั้งในอาคารสาธารณะตามกฎหมายกำหนด รวมถึงในบ้านหรือที่อยู่อาศัยด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยมาเป็นอันดับหนึ่ง
หลักการสำคัญในการติดตั้งระบบไฟฉุกเฉิน
· ตำแหน่งสำหรับติดตั้งควรอยู่สูงจากพื้นตั้งแต่ 2 เมตร ขึ้นไป โดยวัดจากพื้นถึงด้านล่างของตัวไฟฉุกเฉิน กรณีที่ติดตั้งต่ำกว่า 2 เมตร ก็สามารถทำได้ แต่จะต้องไม่กีดขวางเส้นทางหนีภัย
· เลือกติดตั้งในพื้นที่ที่เหมาะสมตามความจำเป็นของสถานที่แต่ละแห่ง เช่น ถ้าเป็นอาคารสาธารณะ ให้ติดตั้ง บริเวณทางออก ทางเดิน ทางแยกเลี้ยว หรือเส้นทางหนีไฟ แต่ถ้าเป็น บ้าน ที่พักอาศัย ก็ต้องอยู่ใกล้กับประตูและบันได หรือพื้นที่ต่างระดับ เป็นต้น
· วิธีการติดตั้ง "ไฟฉุกเฉิน " ที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับสถานที่ สามารถติดตั้งได้ทั้งบนผนังและบนพื้น หลังจากติดตั้งแล้ว สิ่งที่ต้องสังเกต มีดังต่อไปนี้
-หลอดไฟ LED “AC” สีแดง ถ้ามีสว่าง ก็คือ ไฟเข้าเครื่องและเริ่มใช้งานได้แล้ว
-หลอดไฟ LED “ CHARGE” สีเหลือง ถ้ามีแสดงสว่างจะแสดงถึง สถานการณ์ชาร์ตแบตเตอรี่
-หลอกไฟ LED “BATT.FULL” ถ้ากลายเป็นสีเขียว หมายความว่าแบตเตอรี่เต็มแล้ว
· ต้องทดสอบการใช้งานของระบบและแบตเตอรี่ด้วยการกดปุ่ม TEST ค้างไว้ หลอดไฟจะให้แสงสว่าง และถ้าปล่อยมือออกจากปุ่ม หลอดไฟก็จะดับดันที
· อีกวิธีหนึ่งคือ ทดสอบโดยการถอดปลั๊กไฟออก ไฟฉุกเฉิน จะต้องสว่างทันที และเมื่อกดปุ่ม OFF ไฟจะต้องดับ หลังจากนั้นลอง กดปุ่ม ON ไฟจะติดอีกครั้ง ซึ่งหากเป็นไปตามที่กล่าวมานี้ก็แสดงว่า ระบบการทำงานเป็นปกติ ไม่มีปัญหาใดๆ หลังจากนั้นให้เสียบปลั๊กตามเดิมเพื่อให้ระบบไฟฉุกเฉินพร้อมจะทำงาน
· อาคารสาธารณะต่างๆ ระบบ ไฟฉุกเฉิน ต้องให้ความสว่างติดต่อกันนานไม่น้อยกว่า 90 นาที หรือถ้าเป็นอาคารขนาดใหญ่ อาคารสูง ตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงสถานพยาบาล ต้องมีความส่องสว่างต่อกันเป็นเวลา 120 นาทีขึ้นไป
· แสงสว่างของไฟฉุกเฉิน เพื่อการหนีภัยในอาคารสาธารณะ และอาจจะรวมถึง บ้าน ที่พักอาศัย ต้องมีความสว่างไม่น้อยกว่า 1 ลักซ์
· ในส่วนของพื้นที่เก็บอุปกรณ์ดับเพลิง หรืออุปกรณ์ปฐมพยาบาลในอาคารสาธารณะ โรงงาน ความส่องสว่างในพื้นที่เหล่านี้ ต้องไม่น้อยกว่า 15 ลักซ์ ในรัศมีจากตำแหน่งติดตั้งอุปกรณ์ ตามที่กฏหมายกำหนด
· กรณีติดตั้งระบบ ไฟฉุกเฉิน ในห้องน้ำ ให้ติดตั้งในห้องน้ำทั่วไปที่มีพื้นที่มากกว่า 8 ตารางเมตร และห้องน้ำสำหรับคนพิการด้วย
ข้อควรพิจารณาในการติดตั้งระบบ ไฟฉุกเฉิน
· ไม่ควรติดตั้งบนผนังที่มีความร้อนสูง เพราะจะเป็นสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว อีกทั้งไม่ควรติดตั้งในบริเวณที่มีความชื้นสูง เนื่องจาก อาจเกิดสนิมและกระแสไฟฟ้าลัดวงจรได้
· พิจารณาเลือกใช้ หลอดไฟ LED ที่นำมาใช้กับระบบ ไฟฉุกเฉิน เนื่องจากจุดเด่นของหลอดไฟ LED คือ มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ประหยัดพลังงาน แต่ให้การส่องสว่างมาก อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติต่างๆ ที่กล่าวมานี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ในแต่ละยี่ห้อด้วย
สรุป ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งระบบ ไฟฉุกเฉิน ในบ้าน หรืออาคารสาธารณะตามที่กฎหมายกำหนด สิ่งสำคัญก็คือ การทำความเข้าใจกับระบบและอุปกรณ์ให้ดีที่สุด รวมถึงการทดสอบการใช้งานและแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอด้วย เรียกว่า ทุกๆองค์ประกอบ มีความสำคัญมาก และมีผลต่อความปลอดภัยไม่มากก็น้อย หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ดังนั้น หากต้องการติดตั้งระบบไฟฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ใดก็ตาม ควรศึกษาเรื่องการติดตั้งและการใช้งานทุกขั้นตอนอย่างละเอียดที่สุด
หน้าที่เข้าชม | 2,002,193 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,302,619 ครั้ง |
เปิดร้าน | 2 ธ.ค. 2560 |
ร้านค้าอัพเดท | 4 ก.ย. 2568 |