จุดเริ่มต้นที่มาและความแตกต่างของลูกบอลดับเพลิงกับถังดับเพลิง

          ลูกบอลดับเพลิงเป็นนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้สำหรับการดับเพลิงไหม้ ซึ่งอาจจะสร้างความเสียหายนับมหาศาลทั้งชีวิตและทรัพย์สิน หากเราไม่สามารถป้องกันไว้ได้อย่างทันท่วงที โดยมีวิธีการใช้งานง่ายๆ เพียงแค่โยนลูกบอลดับเพลิงนี้เข้าไปที่ฐานกองเพลิง ไฟที่กำลังลุกไหม้จะสงบลงและดับทันที แต่จะมีแนวคิดมาจากไหนและมีความแตกต่างกับถังดับเพลิงอย่างไร เรามีคำอธิบายมาฝากดังนี้ค่ะ

จุดเริ่มต้นของลูกบอลดับเพลิง           ลูกบอลดับเพลิงเป็นผลงานสิ่งประดิษฐ์ที่คิดค้นโดยคนไทยคือ “คุณภณวัชร์นันท์  ไกรมาตย์” โดยมีแนวคิดมาจากได้พบเหตุการณ์จริง “ผมเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังอุ้มเด็กทารกหนีออกมาจากเปลวเพลิง แต่ไม่ทันการณ์ โดยที่ผมและคนอื่นๆ ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้เลย”

            ด้วยเหตุนี้เขาจึงเริ่มประดิษฐ์ผลงานชิ้นนี้ขึ้นมาในปีพ.ศ.2540 ซึ่งมีไอเดียที่ว่าอุปกรณ์ดับเพลิงนี้จะต้องมีน้ำหนักเบา ใช้งานได้ง่าย และไม่จำเป็นต้องเข้าไปประชิดกับจุดเกิดเพลิง เมื่อความคิดตกผลึกจึงได้อุปกรณ์ดับเพลิงที่ออกมาในรูปแบบลูกบอลดับไฟที่มีขนาดเหมาะมือ สามารถโยนหรือกลิ้งเข้าไปที่จุดเกิดเพลิงไหม้และดับเพลิงได้ทันที

            สิ่งเหล่านี้จึงช่วยตอบโจทย์สำหรับคนทั่วไปที่ไม่มีชุดป้องกันรังสีความร้อนเหมือนนักดับเพลิง รวมถึงช่วยแก้ปัญหาการใช้ถังดับเพลิงแบบเก่าที่มีน้ำหนักมากและใช้งานยาก เพราะต้องถือเข้าไปใกล้ฐานเพลิงในระยะ 1.5 เมตร และพ่นอย่างต่อเนื่อง 16 วินาที

ด้วยความยอดเยี่ยมของลูกบอลดับเพลิงนี้ จึงทำให้ได้รับรางวัลอย่างมากมายจากนานาประเทศ ทั้งรางวัลสิ่งประดิษฐ์ยอดเยี่ยมจากสภาวิจัยแห่งชาติในปีพ.ศ. 2544 และยังคว้ารางวัลสิ่งประดิษฐ์ดีเด่นจาก WIPO หรือองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลกในปีพ.ศ. 2551  ไม่นับรางวัลจากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อังกฤษ และเยอรมนี

ลูกบอลดับเพลิงควรใช้กับสถานที่ใดบ้าง

            ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัยอย่างเช่นบ้านหรือคอนโด ก็สามารถใช้ลูกบอลดับเพลิงได้ทั้งสิ้น โดยถ้ากล่าวถึงในแง่ของการเฝ้าระวังภัยแล้ว เราสามารถติดตั้งลูกบอลดับไฟนี้ไว้เหนือบริเวณจุดเสี่ยงที่อาจจะก่อให้เกิดเปลวไฟได้ เช่น จุดเชื่อมต่อแก๊ส LPG และ NGV ห้องจัดเก็บสารเคมีไวไฟ รวมถึงจุดเสี่ยงที่ไม่สามารถใช้น้ำในการดับเพลิงได้อย่างเช่นเหนือปลั๊กไฟฟ้า เป็นต้น

ความแตกต่างระหว่างลูกบอลดับเพลิงกับถังดับเพลิง
ถึงแม้ว่าทั้งสองอุปกรณ์นี้จะสามารถใช้ดับเพลิงได้เหมือนกัน แต่ในเรื่องของการใช้งานถือว่ามีความแตกต่างกันมากพอสมควรเลยทีเดียว เพราะลูกบอลดับไฟนั้นใช้งานง่ายมากๆ แม้ว่าจะไม่ได้ผ่านการฝึกอบรมมาก่อนก็สามารถใช้งานได้ทันที ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับเด็ก สตรี และผู้สูงอายุ หากจำเป็นต้องใช้งานทันที เนื่องจากมีน้ำหนักเบาเพียง 1.3 กิโลกรัมเท่านั้นเอง

           ลูกบอลดับเพลิงมีลักษณะเป็นทรงกลมที่แตกต่างจากถังดับเพลิง ซึ่งมีรูปร่างทรงกระบอกเทอะทะและมี น้ำหนักมาก แม้แต่การใช้งานลูกบอลดับเพลิงก็เพียงแค่โยนหรือทอยเข้าไปในกองเพลิง โดยที่ไม่ต้องเข้าไปใกล้เปลวไฟหรือกองเพลิงนั้นเหมือนกับถังดับเพลิง ซึ่งจะทำงานอัตโนมัติเมื่อสัมผัสกับเปลวไฟหรือเกิดเหตุเพลิงไหม้ขณะที่เราไม่อยู่
            นอกจากนี้เมื่อ "ลูกบอลดับเพลิง" แตกกระจายแล้ว เสียงที่ดังจะเป็นเสียงระดับตกกระแทก ซึ่งจะช่วยเตือนผู้ที่อยู่ใกล้เคียงทราบว่ามีเหตุเพลิงไหม้บริเวณนั้นตามมาตรฐานสากล วัสดุและสารเคมีที่ใช้ดับเพลิงก็ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมอีกด้วย เนื่องจากผ่านการตรวจสอบโดยห้องปฏิบัติการจากหลายประเทศที่เป็นองค์กรระดับสากล โดยไม่มีชื่อสารเคมีที่อยู่ในรายการของสารเคมีอันตราย วัสดุที่ใช้ห่อหุ้มเป็นโฟมไร้สาร CFC ไม่ลามไฟ มีแต่วัสดุนิ่มที่ไม่ทำให้สิ่งของที่อยู่นอกกองเพลิงนั้นเสียหาย

ลูกบอลดับเพลิงเป็นนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์หนึ่งที่เกิดจากการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส พร้อมกับช่วยป้องกันและลดการสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นจากเหตุอัคคีภัยในอนาคตได้ แล้ววันนี้คุณเตรียมพร้อมหรือยังคะ